ต้นองุ่น
องุ่นสามารถเจริญเติบโตได้ดีทั้งในเขตหนาว เขตกึ่งร้อนกึ่งหนาว และเขตร้อน สำหรับประเทศไทยไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่านำเข้ามาในสมัยใด แต่คาดว่าน่าจะนำเข้ามาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระองค์ท่านได้นำพันธุ์ไม้แปลกๆ จากต่างประเทศที่ได้เสด็จประพาสมาปลูกในประเทศไทย และเชื่อว่าในจำนวนพันธุ์ไม้แปลกๆ เหล่านั้นน่าจะมีพันธุ์องุ่นรวมอยู่ด้วย ในสมัยรัชกาลที่ 7 มีหลักฐานยืนยันว่าเริ่มมีการปลูกองุ่นกันบ้างแต่ผลองุ่นที่ได้มีรสเปรี้ยว การปลูกองุ่นจึงซบเซาไป ต่อมาในปี พ.ศ. 2493 ได้เริ่มมีการปลูกองุ่นอย่างจริงจัง โดยหลวงสมานวนกิจ ได้นำพันธุ์องุ่นมาจากมลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา และปี พ.ศ. 2497 ดร.พิศ ปัญญาลักษณ์ได้นำพันธุ์องุ่นมาจากทวีปยุโรปซึ่งสามารถปลูกได้ผลเป็นที่น่าพอใจ นับแต่นั้นมาการปลูกองุ่นในประเทศไทยจึงแพร่หลายมากขึ้น
องุ่น มีชื่อวิทยาศาสตร์ ว่า Vitis vinifera เป็นไม้ผล เขตกึ่งร้อน ซึ่งมีการผลิตกัน มากในประเทศแถบอบอุ่นของ โลก เริ่มนำเข้ามาปลูกในเมือง ไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 7 แต่ทำการส่งเสริมการปลูกอย่าง จริงจังและได้ผลดีตั้งแต่ปี 2510 สาเหตุที่องุ่นปลูกได้ ผลดีในเมืองไทย ทั้งๆ ที่อยู่ใน เขตร้อนของโลก เนื่องมาจาก
1.องุ่นสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพดินฟ้าอากาศในเมืองไทยได้ เป็นอย่างดี เนื่องจากมีการปลูกมานาน พันธุ์ที่นิยมปลูกกันมากคือ ไวท์ มะละกา (ผลสีเขียว) ซึ่งมีการปลูกร้อยละ 95 และคาร์ดินัล (ผลสีม่วง) ซึ่งมีการปลูกร้อยละ 5 ส่วนที่เหลือเป็นพันธุ์อื่นๆ
2. วิธีการปลูกในระบบการยกร่องกันโดยทั่วไปในจังหวัดสมุทรสาคร นครปฐม และราชบุรี ซึ่งระบบการปลูกบนสันร่องและมีน้ำหล่ออยู่ใน ท้องร่องนี้ ระดับของน้ำจะเป็นตัวจำกัดการเจริญของรากองุ่นมิให้ลงไปได้ลึก แต่รากจะแผ่อยู่เฉพาะ ในบริเวณที่สูงกว่าระดับน้ำเท่านั้น ทำให้ต้นองุ่นมีการ เจริญเติบโตทางด้านลำต้น (vegetative growth) ไม่ดีนัก แต่จะทำให้ออกดอก ได้เร็วขึ้น ซึ่งวิธีการนี้แตกต่างจากการปลูกในระบบที่ดอนของต่างประเทศแต่การปลูกในระบบยกร่อง ของไทยก็มีข้อเสียคือ ต้นองุ่นจะเป็นโรคง่าย และมีอายุสั้นกว่าการปลูกในต่างประเทศมาก
3. มีการตัดแต่งกิ่ง ให้น้ำเพื่อกระตุ้นการออกยอดใหม่ พร้อมทั้งใช้วิธี เร่งให้ออกดอกด้วยการบังคับน้ำและปุ๋ย ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยให้องุ่นมีผลแก่ หมุนเวียนบริโภคได้ทั้งปี แต่ในต่างประเทศโดยทั่วไปจะมีผลแก่เพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้น จากร้าน อุ๋ยพันธุ์องุ่น เปิดร้านประมาณ 20 ปี โดยเจ้าของร้านชื่อ น.ส.ปาณิสรา (อุ๋ย) ปลื้มอุดม อาชีพค้าขายและเกษตรกร ก่อตั้งวันแรก 25 มิถุนายน พ.ศ.2540 โดยเริ่มต้นจากการเริ่มปลูกองุ่นป่าขายก่อน โดยการทำสวนยกร่อง แล้วนำต้นองุ่นป่ามาปลูกเมื่อโตเต็มที่จึงทำการตอนกิ่งแล้วนำมาขาย
ต้นองุ่นบ้านแพ้ว
ผ่านไปไม่นานก็เริ่มทำกิ่งติดตาโดยเริ่มจากพันธุ์บ็อกดำซึ่งเป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกกันมาในประเทศไทย นำมาปลูกในสวนยกร่องของแล้วเองแล้วนำตาพันธุ์บ็อกดำมาติดกับต้นองุ่นป่าที่ตอนไว้แล้วแล้วนำมาลงถุงขำเพื่อขาย 4 ต่อมาก็ได้กำไรจากการขายองุ่นกิ่งป่าและกิ่งติดตามากขึ้น จึงคิดทำองุ่นปักชำ โดยใช้กิ่งจากต้นองุ่นที่ปลิดแล้วมาตัดเป็นท่อนๆแล้วนำมาติดตาพันธุ์แล้วนำไปปักในถุงชำผลออกมากิ่งแตกตาได้สวยงามมากๆจึงทำกิ่งป่าติดตาและกิ่งปักชำขาย จากนั้นก็เริ่มนำพันธุ์อื่นๆเข้ามาขายบ้างเช่น ไวท์มะละกา รูสเพอร์เรส แบคโอปอ คารินัล ไข่ปลาคาเวีย และพันธู์อื่นๆอีกมาก 15 ปีต่อมา ก็เริ่มคิดการขายต้นองุ่นออกมาใหม่ๆ โดยเอาต้นองุ่นที่มีอายุมากกว่า2 ปีที่กำลังจะโค้นต้นทิ้งนำกลับมาติดตาใหม่ โดยเริ่มแรกทำประมาณ 20-50ต้น และผลออกมาคือตาพันธุ์ที่ติดไว้แตกตาออก ทำให้หันมาทำองุ่นแบบตอตัดเพิ่มอย่างจริง ปัจจุบันร้านอุ๋ยพันธุ์องุ่นเป็นที่รู้จักของพ่อค้าแม่ค้าที่ขายองุ่นในย่านบ้านแพ้ว และมีลูกค้าเป็นจำนวนมากที่มาซื้อต้นองุ่นจากร้านนี้
กิ่งองุ่นปักชำ
ต้นตอตัด
ต้นองุ่นต้นใหญ่
ความพิเศษของร้าน อุ๋ยพันธุ์องุ่น
เป็นแหล่งจำหน่ายพันธุ์องุ่นทุกสายพันธุ์ และมีต้นองุ่นหลายรูปแบบ มีตั้งแต่ต้นขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ กระบวนการทำ ทำเองทั้งหมด ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์ การติดตา การดูแลจนกว่าตาพันธุ์จะผลิออก และอื่นๆ
บรรณานุกรม

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น